
ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เช็กความพร้อมคุณแม่ก่อนมีบุตร
คู่มือคุณแม่มือใหม่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ พร้อมเคล็ดลับดูแลตัวเอง
บทความ
ต.ค. 29, 2025
11นาที
คำถามที่พบบ่อย
ถ้าตรวจเจอว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมียทั้งคู่ จะยังมีลูกได้ไหม?
หากสามีภรรยาเป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia) ทั้งคู่ ยังคงมีโอกาสมีลูกได้ แต่มีความเสี่ยงที่ลูกจะเป็นโรคธาลัสซีเมียที่รุนแรง การตรวจคัดกรองก่อนตั้งครรภ์ (preconception screening) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยจะเป็นการตรวจเลือดเพื่อหาพาหะของยีนแฝง เช่น แอลฟ่า-ธาลัสซีเมีย (Alpha Thalassemia Trait), เบต้า-ธาลัสซีเมีย (Beta Thalassemia Minor), ฮีโมโกลบินอี (Hemoglobin E) และ โฮโมซัยกัสฮีโมโกลบินอี (Homozygous Hb E)
การตรวจคัดกรองนี้สามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร ใช้เลือดเพียง 2-3 ซีซี เมื่อทราบผลแล้ว แพทย์จะให้คำแนะนำที่เหมาะสมเกี่ยวกับแนวทางการตั้งครรภ์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้คู่รักสามารถตัดสินใจและวางแผนการมีบุตรได้อย่างมั่นใจ
ควรไปตรวจสุขภาพก่อนวางแผนมีลูกนานแค่ไหน?
สำหรับคู่รักที่วางแผนจะมีลูก ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือนก่อนการตั้งครรภ์ ช่วงเวลานี้จะช่วยให้คุณแม่มีเวลาเตรียมความพร้อมด้านร่างกายได้อย่างเต็มที่ เช่น
- การรับประทานกรดโฟลิค: ควรเริ่มรับประทานตามคำแนะนำของคุณหมออย่างน้อย 3 เดือนก่อนตั้งครรภ์ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงภาวะพิการแต่กำเนิดของทารก
- การฉีดวัคซีน: คุณแม่ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ เช่น หัดเยอรมัน คางทูม และอีสุกอีใส โดยต้องฉีดล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนก่อนการตั้งครรภ์ เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันได้สมบูรณ์
การเตรียมความพร้อมล่วงหน้าจะช่วยให้คุณแม่ และลูกน้อยมีสุขภาพดีตลอดการตั้งครรภ์
ค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ประมาณเท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโรงพยาบาล (รัฐบาลหรือเอกชน) และแพ็กเกจที่เลือก โดยทั่วไปสำหรับโรงพยาบาลรัฐบาลอาจเริ่มต้นที่ประมาณ 2,000-4,000 บาทต่อคู่ ในขณะที่โรงพยาบาลเอกชนอาจมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 4,000-10,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับรายการตรวจอย่างละเอียดที่รวมอยู่ในแพ็กเกจ
สรุป
- การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ คือ การตรวจความพร้อมของร่างกายทั้งว่าที่คุณพ่อและคุณแม่ เพื่อค้นหาและลดความเสี่ยงของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคทางพันธุกรรม โรคประจำตัว หรือภาวะมีบุตรยาก รวมถึงประเมินความแข็งแรงของอสุจิและสุขภาพโดยรวม เพื่อให้แพทย์สามารถวางแผนการดูแลครรภ์ได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในคุณแม่ที่อายุเกิน 35 ปี
- การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ ควรเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนก่อนที่จะมีลูก เพื่อให้คุณหมอมีเวลาดูแลและวางแผนการเตรียมร่างกายของคุณแม่ให้พร้อมที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งกับตัวคุณแม่และลูกน้อยค่ะ
- การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์คุณผู้ชายก็ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพด้วย เพื่อประเมินความพร้อมและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การตรวจจะช่วยให้คุณหมอสามารถค้นหาภาวะที่มีผลต่อการมีบุตรได้ เช่น การสูบบุหรี่ที่อาจทำให้อสุจิลดลงและเพิ่มความเสี่ยงภาวะมีบุตรยาก หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างซิฟิลิสที่อาจส่งผลกระทบให้ลูกพิการแต่กำเนิดได้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
- ทำไมการตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญ?
- ทำไมคู่รักต้องตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์
- ไม่ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เสี่ยงอะไรบ้าง?
- การเตรียมตัวก่อนไปตรวจสุขภาพ
- ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ ตรวจอะไรบ้าง?
- ควรไปตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ที่ไหนดี?
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์
ทำไมการตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์จึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญ?
สงสัยใช่ไหมคะว่า "ทำไมต้องตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์...จำเป็นด้วยเหรอ?" บอกเลยค่ะว่าการตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ไม่ใช่แค่การเตรียมพร้อม แต่เป็นการสร้างรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรงที่สุดเพื่อลูกน้อยในอนาคต การเริ่มต้นด้วยความพร้อมนี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถวางแผนการตั้งครรภ์ เพื่อก้าวสู่การเดินทาง 9 เดือนที่มหัศจรรย์ได้อย่างมั่นใจและไร้กังวลค่ะ
การตรวจสุขภาพอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณหมอประเมินความเสี่ยงและดูแลได้อย่างตรงจุด ตั้งแต่การคัดกรอง โรคทางพันธุกรรม ที่อาจส่งต่อถึงลูกได้ เช่น ธาลัสซีเมีย หรือโรคประจำตัวอื่น ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ อย่าง เบาหวานขณะตั้งครรภ์ และ ความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ยังช่วยให้ทราบถึงปัจจัยที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการมีลูก เช่น ภาวะมีบุตรยาก หรือปัญหาเกี่ยวกับรอบเดือนที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน
สำหรับคุณแม่ที่วางแผนจะตั้งครรภ์เมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป การตรวจร่างกายก่อนตั้งครรภ์จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเป็นพิเศษ เพราะช่วยให้ทราบถึงความเสี่ยงที่ทารกอาจเป็น ดาวน์ซินโดรม (Down syndrome) หรือความเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้คุณหมอวางแผนการดูแลครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์คือการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุดของลูกน้อย ทำให้อุ่นใจได้ว่าลูกจะเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรงค่ะ
ทำไมคู่รักต้องตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์
รู้ไหมคะว่าร่างกายของเราอาจซ่อนความเสี่ยงบางอย่างไว้โดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ การตรวจสุขภาพจึงเป็นเหมือนการเปิดไฟส่องทาง เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับทุกความเป็นไปได้ และวางแผนอย่างรอบคอบเพื่ออนาคตของลูกค่ะ
นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ ควรเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือนก่อนที่จะมีลูก เพื่อให้คุณหมอมีเวลาดูแลและวางแผนการเตรียมร่างกายของคุณแม่ให้พร้อมที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งกับตัวคุณแม่และลูกน้อยค่ะ การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทราบถึง
- โรคที่สามารถถ่ายทอดไปสู่ลูกได้ อย่างเช่น โรคเอดส์ที่เกิดจากเชื้อ HIV หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างซิฟิลิส หรือไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งสามารถแพร่จากคุณแม่ไปสู่ลูกน้อยได้ การตรวจพบแต่เนิ่น ๆ จะทำให้คุณหมอสามารถวางแผนการรักษาให้คุณแม่สามารถได้รับวัคซีนป้องกันได้ทันท่วงที
- โรคทางพันธุกรรม เช่น โรคโลหิตจาง หรือ ธาลัสซีเมีย การที่ทั้งคุณแม่และคุณสามีตรวจเลือดเพื่อหาความเสี่ยงแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้คุณหมอวางแผนการมีบุตรได้อย่างเหมาะสม และช่วยลดความกังวลใจของครอบครัวได้ค่ะ
ไม่ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เสี่ยงอะไรบ้าง?
หากกำลังคิดว่าไม่ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์คงไม่เป็นไร อยากให้ลองคิดดูใหม่อีกครั้งค่ะ เพราะการมองข้ามขั้นตอนนี้ไปอาจทำให้คุณแม่และลูกต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ไม่คาดคิด ดังนี้
ขาดการวางแผนที่สำคัญ
การไม่ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์เท่ากับว่าคุณแม่และคุณสามีอาจพลาดโอกาสในการวางแผนครอบครัวที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีโอกาสเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก ซึ่งหากทราบแต่เนิ่น ๆ ก็จะสามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อหาแนวทางแก้ไขได้ทันท่วงที ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาและความรู้สึกไปกับการรอคอยอย่างไม่รู้สาเหตุ
ความเครียดระหว่างตั้งครรภ์
เมื่อตั้งครรภ์ไปแล้ว หากไม่เคยตรวจสุขภาพมาก่อน อาจทำให้คุณแม่รู้สึก วิตกกังวลและเครียดได้ง่าย เพราะไม่รู้ว่าร่างกายตัวเองพร้อมแค่ไหน มีโรคซ่อนอยู่หรือไม่ ความเครียดเหล่านี้ส่งผลเสียต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้ หากมีการเตรียมตัวที่ดีแต่แรกก็จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกมั่นใจและมีความสุขตลอดการตั้งครรภ์ค่ะ
ความเสี่ยงต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อย
การไม่ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ยังเพิ่มโอกาสในการเกิด โรคแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคโลหิตจาง เบาหวาน ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งล้วนเป็นภาวะที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่ และยังอาจส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย เช่น การเจริญเติบโตและพัฒนาการที่บกพร่อง การแท้งบุตร หรือการคลอดก่อนกำหนด
มีรายงานทางวิชาการชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงที่ไม่ได้วางแผนการตั้งครรภ์มาก่อน มักขาดความรู้ที่จำเป็นเกี่ยวกับสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ ซึ่งอาจนำไปสู่ผลกระทบเชิงลบต่อพัฒนาการและสุขภาพของทารกในครรภ์ได้ เนื่องจากช่วงก่อนตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาสำคัญในการพัฒนาผลลัพธ์การตั้งครรภ์ให้มีประสิทธิภาพและสมบูรณ์ที่สุด
ดังนั้น การเข้ารับการตรวจสุขภาพและรับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนการตั้งครรภ์ จึงเป็นการลงทุนเพื่อสุขภาพที่คุ้มค่าสำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกย่างก้าวของการตั้งครรภ์จะเป็นอย่างปลอดภัยและราบรื่นที่สุดค่ะ
การเตรียมตัวก่อนไปตรวจสุขภาพ
การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์เป็นเรื่องสำคัญ แต่การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปตรวจก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยให้ผลตรวจแม่นยำและช่วยให้คุณหมอสามารถวินิจฉัยได้อย่างถูกต้องที่สุด ซึ่งจะนำไปสู่การวางแผนการดูแลสุขภาพของคุณแม่และคุณสามีได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
1. พักผ่อนให้เพียงพอ
ก่อนวันตรวจ แนะนำให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพออาจส่งผลต่อความดันโลหิตและการเต้นของหัวใจ ทำให้ผลตรวจที่ได้คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงได้ค่ะ
2. งดอาหารและเครื่องดื่มบางชนิด
เพื่อผลตรวจเลือดที่แม่นยำยิ่งขึ้น ควรงดอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด อย่างน้อย 8-10 ชั่วโมงก่อนไปตรวจ และควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกประเภทอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนตรวจ เพราะอาจส่งผลต่อการทำงานของตับและระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มและอาหารรสหวานจัดในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนตรวจด้วยค่ะ
3. ช่วงมีประจำเดือน
สำหรับคุณแม่ ควรหลีกเลี่ยงการไปตรวจสุขภาพในช่วงที่มีประจำเดือน หรือก่อนและหลังมีประจำเดือน 7 วัน เพราะอาจมีเลือดปนในปัสสาวะ ทำให้ผลการตรวจคลาดเคลื่อนได้
4. เตรียมข้อมูลสุขภาพ
หากคุณแม่หรือสามีมีโรคประจำตัวหรือประวัติสุขภาพที่สำคัญ อย่าลืมเตรียมเอกสารทางการแพทย์ ยาที่กินประจำ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้พร้อม เพื่อให้คุณหมอสามารถนำมาประกอบการวิเคราะห์ผลตรวจได้อย่างถูกต้องและแม่นยำค่ะ
การให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาและครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้การวางแผนสุขภาพสำหรับคุณแม่และคุณสามีเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้องที่สุดค่ะ

ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ ตรวจอะไรบ้าง?
ว่าที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะสงสัยว่า การเตรียมตัวก่อนมีลูกนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง? นอกจากการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจและเรื่องการเงินแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ค่ะ เพราะการตรวจสุขภาพนี้เปรียบเสมือนการปูทางให้การเดินทางครั้งสำคัญนี้ราบรื่นและปลอดภัยที่สุดสำหรับลูกน้อยในอนาคต
การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่คุณแม่เท่านั้น แต่คุณพ่อก็ควรเข้ารับการตรวจด้วยเช่นกัน เพื่อให้มั่นใจว่าทั้งสองคนมีความพร้อมอย่างเต็มที่ โดยการตรวจจะแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ดังนี้ค่ะ
1. การซักประวัติอย่างละเอียด
ในขั้นตอนนี้คุณหมอจะพูดคุยกับคุณแม่และคุณพ่อเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพโดยรวม ทั้งประวัติการเจ็บป่วย การผ่าตัด การใช้ยา การคุมกำเนิด และที่สำคัญคือ ประวัติโรคทางพันธุกรรม ในครอบครัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือธาลัสซีเมีย ซึ่งจะช่วยให้คุณหมอประเมินความเสี่ยงและให้คำแนะนำที่เหมาะสมได้
2. การตรวจร่างกายทั่วไป
เป็นการตรวจเบื้องต้นเพื่อดูความสมบูรณ์ของร่างกาย เช่น วัดส่วนสูง น้ำหนัก ความดันโลหิต การเต้นของหัวใจ รวมถึงการตรวจอวัยวะสำคัญอื่น ๆ เช่น เต้านมและช่องท้อง หากพบความผิดปกติใด ๆ คุณหมอจะแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์จริง ๆ
3. การตรวจเลือดและปัสสาวะ
เป็นการตรวจที่สำคัญมาก ๆ ค่ะ เพราะสามารถบอกข้อมูลเชิงลึกได้หลายอย่าง เช่น
- ความเข้มข้นของเลือด เพื่อดูว่ามีภาวะโลหิตจางหรือไม่
- โรคทางพันธุกรรมแฝง เช่น ธาลัสซีเมีย หากทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นพาหะ มีโอกาสที่ลูกจะเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงได้ ซึ่งคุณหมอจะให้คำปรึกษาเพื่อวางแผนการตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี ซิฟิลิส และ HIV (เอดส์) เพื่อให้ได้รับการรักษาก่อนตั้งครรภ์และป้องกันการถ่ายทอดเชื้อไปสู่ลูก
- ภูมิคุ้มกันโรค เช่น หัดเยอรมัน หรืออีสุกอีใส หากยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ควรฉีดวัคซีนป้องกันก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 1-3 เดือน เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย
4. การตรวจทางนรีเวช (สำหรับคุณแม่)
คุณหมอจะทำการตรวจภายในเพื่อดูความพร้อมของมดลูก รังไข่ และช่องคลอดว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น เนื้องอก พังผืด หรือถุงน้ำในรังไข่ นอกจากนี้ยังถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ไปพร้อม ๆ กันด้วยค่ะ
5. การตรวจอื่น ๆ ที่อาจจำเป็น
- การตรวจฟัน: หลายคนอาจมองข้ามเรื่องสุขภาพช่องปากไป แต่การตรวจสุขภาพฟันก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ หญิงที่วางแผนตั้งครรภ์ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปาก เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพราะการมีฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือโรคปริทันต์ไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคุณแม่ขณะตั้งครรภ์เท่านั้น แต่อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิด ภาวะคลอดก่อนกำหนด หรือทำให้ เด็กเกิดมามีน้ำหนักน้อย ได้อีกด้วย การมีสุขภาพช่องปากที่ดีจึงเป็นการดูแลลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์ค่ะ
- การตรวจสุขภาพจิต: สภาวะอารมณ์ของคุณแม่มีผลโดยตรงต่อการตั้งครรภ์ การประเมินและเตรียมความพร้อมด้านสุขภาพจิตจึงสำคัญไม่แพ้กัน
- การตรวจคุณภาพของอสุจิ (สำหรับคุณพ่อ): เป็นการตรวจเพื่อประเมินคุณภาพและความสมบูรณ์ของอสุจิค่ะ
การเตรียมตัวที่ดีที่สุด คือการเริ่มต้นตั้งแต่เนิ่น ๆ ค่ะ การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์เป็นของขวัญล้ำค่าที่คุณแม่สามารถมอบให้ลูกน้อยได้ตั้งแต่วันแรกที่เขายังไม่ถือกำเนิดขึ้นมา เป็นก้าวแรกที่มั่นคงและอบอุ่นบนเส้นทางของการเป็นพ่อแม่ค่ะ หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเพื่อวางแผนการตั้งครรภ์ที่เหมาะสมกับคุณแม่และสามีได้เลยนะคะ
ควรไปตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ที่ไหนดี?
สำหรับคู่รักที่อยากมีลูก การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ถือเป็นขั้นตอนสำคัญ แต่หลายคนอาจสงสัยว่า "แล้วจะไปตรวจที่ไหนดี?" ไม่ต้องกังวลไปค่ะ คุณแม่และสามีสามารถเข้ารับการตรวจสุขภาพได้ทั้งใน โรงพยาบาลรัฐบาลและโรงพยาบาลเอกชนได้ทุกโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้านหรือเดินทางสะดวก
ก่อนตัดสินใจ ลองเช็กรายละเอียดและค่าบริการ ของแต่ละโรงพยาบาลที่สนใจ เพื่อเปรียบเทียบโปรแกรมการตรวจให้เหมาะสมกับความต้องการ และเพื่อความสะดวก โรงพยาบาลหลายแห่งก็มี แพ็กเกจตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ โดยเฉพาะให้เลือกสรร เช่น
โรงพยาบาลรัฐบาล
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานหรือมีบุตร โรงพยาบาลรามาธิบดี
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานและเตรียมพร้อมมีบุตร โรงพยาบาลราชธานี
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรสำหรับคู่สมรส โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์วลัยลักษณ์
โรงพยาบาลเอกชน
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานและเตรียมพร้อมก่อนมีบุตร (สุภาพบุรุษ) โรงพยาบาลรามคำแหง 2
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร (สตรี) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร / ก่อนตั้งครรภ์ โรงพยาบาลพญาไท 2
- โปรแกรมตรวจก่อนแต่งงานและเตรียมมีบุตร โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
- โปรแกรมตรวจสุขภาพ ก่อนแต่งงานและเตรียมตัวก่อนมีบุตร โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต
- โปรแกรมตรวจก่อนแต่ง/ก่อนตั้งครรภ์ โรงพยาบาลเจ้าพระยา
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร โรงพยาบาลเปาโล
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน และเตรียมความพร้อมก่อนมีบุตร โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานและเตรียมพร้อมก่อนมีบุตร โรงพยาบาลกรุงไทย
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร สำหรับสตรี โรงพยาบาลสมิติเวช
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร สำหรับบุรุษ โรงพยาบาลสมิติเวช
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานหรือก่อนมีบุตร โรงพยาบาลพระราม 9
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน และเตรียมพร้อมก่อนมีบุตร โรงพยาบาลศิครินทร์
- โปรแกรมตรวจสุขภาพแต่งงาน โรงพยาบาล MedPark
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนสมรส-ก่อนมีบุตร (ชาย) โรงพยาบาลสินแพทย์
- โปรแกรมตรวจสุขภาพก่อนสมรส-ก่อนมีบุตร (หญิง) โรงพยาบาลสินแพทย์
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์
การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณและคู่รักเตรียมตัวอย่างดีที่สุดสำหรับการมีลูกน้อย การตรวจนี้ไม่ได้เพียงแค่ช่วยให้คุณมั่นใจในสุขภาพของตัวเองเท่านั้น แต่ยังช่วยค้นหาและแก้ไขปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์และการเจริญเติบโตของทารกอีกด้วย เพื่อให้คุณแม่เข้าใจมากขึ้น เราได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์มาไว้ให้แล้วค่ะ
ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ ใช้ประกันสังคมได้ไหม
ผู้ประกันตนที่ต้องการตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์สามารถใช้สิทธิประกันสังคมในการตรวจสุขภาพได้ค่ะ แม้ว่าจะไม่มีโปรแกรมที่เจาะจงสำหรับการตรวจก่อนตั้งครรภ์โดยเฉพาะ แต่ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 สามารถใช้สิทธิเพื่อเข้ารับการตรวจสุขภาพฟรี 14 รายการ ณ สถานพยาบาลทั้งของรัฐบาลและเอกชนที่เข้าร่วมโครงการได้
14 รายการตรวจสุขภาพฟรีจากสำนักงานประกันสังคม ได้แก่
- การคัดกรองการได้ยิน Finger Rub Test
- การตรวจเต้านมโดยแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุข และสอนการตรวจเต้านมด้วยตนเอง
- การตรวจตาโดยความดูแลของจักษุแพทย์ เพื่อคัดกรองความผิดปกติและค้นหาโรคทางสายตา พร้อมทั้งการตรวจ Snellen eye Chart และวัดความดันของเหลวภายในลูกตา
- การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete blood cell count หรือ CBC)
- การตรวจปัสสาวะ UA หรือ Urinalysis
- น้ำตาลในเลือด FBS (Fasting Blood Sugar)
- การทำงานของไต Cr และ eGFR
- ไขมันในเส้นเลือดชนิด Total & HDL Cholesterol
- เชื้อไวรัสตับอักเสบ HBsAg
- มะเร็งปากมดลูก Pap Smear
- มะเร็งปากมดลูกวิธี Visual inspection with acetic acid (VIA)
- มะเร็งปากมดลูก HPV DNA Test
- ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และสำไส้ตรง
- การถ่ายภาพรังสีทรวงอก (Chest X-ray)
การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน กับ ก่อนตั้งครรภ์ ต่างกันอย่างไร?
การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานกับการตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ อาจฟังดูคล้ายกัน แต่มีวัตถุประสงค์และรายละเอียดที่แตกต่างกันค่ะ การตรวจทั้งสองประเภทนี้เป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้คู่รักเตรียมความพร้อมสำหรับการเริ่มต้นชีวิตคู่และวางแผนการมีบุตรได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้เข้าใจความแตกต่างได้ชัดเจนขึ้น เราจะอธิบายรายละเอียดของแต่ละประเภทดังนี้ค่ะ
1. การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน
การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานเป็นการตรวจคัดกรองเพื่อประเมินความพร้อมทางสุขภาพของคู่รักที่วางแผนจะใช้ชีวิตร่วมกันและมีบุตรในอนาคต การตรวจนี้จะช่วยค้นหาความเสี่ยงด้านสุขภาพที่อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตคู่ การตั้งครรภ์ และการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคติดเชื้อ หรือโรคทางกรรมพันธุ์แฝง เพื่อให้ทั้งคู่สามารถวางแผนการดูแลสุขภาพร่วมกันได้อย่างเหมาะสมและมั่นใจนั่นเองค่ะ
2. การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์
การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์เป็นการตรวจสุขภาพเพื่อประเมินความพร้อมทางร่างกายของพ่อและแม่ เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์ การตรวจนี้จะช่วยค้นหาความเสี่ยงของโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย หรือภาวะที่อาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ เช่น โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง รวมถึงประเมินปัจจัยอื่น ๆ เช่น ภาวะมีบุตรยาก และความแข็งแรงของอสุจิ นอกจากนี้ยังช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนดูแลการตั้งครรภ์ได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในคุณแม่ที่มีอายุเกิน 35 ปี ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นกับทารกได้ค่ะ
ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ ผู้ชายต้องตรวจด้วยไหม
แน่นอนว่า ฝ่ายชายก็ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เช่นกัน เพื่อประเมินความพร้อมและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การตรวจนี้จะช่วยค้นหาภาวะที่มีผลต่อการมีบุตร รวมถึงโรคที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของแม่และลูกในครรภ์ เช่น การสูบบุหรี่ซึ่งอาจทำให้อสุจิลดลงและเพิ่มความเสี่ยงภาวะมีบุตรยาก หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างซิฟิลิสที่อาจทำให้ลูกพิการแต่กำเนิดได้ การตรวจสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทั้งคู่สามีภรรยา เพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยที่สุดค่ะ
การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ไม่ใช่เรื่องเฉพาะของคุณแม่เท่านั้น แต่เป็นเรื่องสำคัญที่คู่รักต้องวางแผนและเตรียมตัวไปพร้อมกันค่ะ การที่คุณพ่อคุณแม่ร่วมกันไปตรวจสุขภาพ จะช่วยให้คุณหมอประเมินความพร้อมและให้คำแนะนำในการตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพได้อย่างครบถ้วน ทำให้คุณสามารถส่งต่อสุขภาพและพัฒนาการที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อยตั้งแต่เริ่มต้น
นอกจากนี้ การเตรียมตัวที่สำคัญอีกอย่างคือการวางแผนเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะนมแม่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของลูกอย่างครบถ้วนมากกว่า 200 ชนิด โดยเฉพาะสารอาหารสำคัญ เช่น แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน (Alphalac Sphingomyelin) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการของสมองและการเรียนรู้ของลูกน้อยอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดค่ะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
- ผ่าคลอดประกันสังคมจ่ายเท่าไหร่ คุณพ่อคุณแม่มีสิทธิเบิกอะไรบ้าง
- โฟเลต คืออะไร อาหารที่มีโฟเลตสูงสำคัญกับคุณแม่ตั้งครรภ์แค่ไหน
- ฝากครรภ์ที่ไหนดี คุณแม่ฝากครรภ์ครั้งแรกมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
- คนท้องกินแตงโมได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
- คนท้องกินเผ็ดได้ไหม อันตรายกับลูกในท้องหรือเปล่า
อ้างอิง:
- ทำไม? การตรวจสุขภาพก่อนมีลูก...ถึงสำคัญ, โรงพยาบาลพญาไท 3
- เพราะความรักไม่ใช่แค่เรื่องของหัวใจ ก้าวสู่ชีวิตคู่อย่างมั่นใจ “ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน”, โรงพยาบาล BNH
- เตรียมตัวตั้งครรภ์อย่างไร? ให้คุณแม่คลอดปลอดภัยและลูกน้อยแข็งแรงสมบูรณ์, โรงพยาบาลกรุงไทย
- ทำไมถึงควรตรวจสุขภาพก่อนมีบุตร, โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล
- การเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพที่ดี ช่วยให้ผลที่ได้แม่นยำยิ่งขึ้น, โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์
- เตรียมพร้อมก่อนตั้งครรภ์เพื่อ...ว่าที่คุณแม่ฟันดี, สำนักงานทันตสาธารณสุข
- ผู้ประกันตนมาตรา 33 และ มาตรา 39 ใช้สิทธิตรวจสุขภาพฟรี 14 รายการ, สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
- การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน, โรงพยาบาล MedPark
- ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เมื่อไหร่ดี ตรวจอะไรบ้าง ผู้ชายต้องตรวจไหม, โรงพยาบาล MedPark
- ทำไม “คู่สมรส” ต้องตรวจธาลัสซีเมียก่อนตั้งครรภ์, โรงพยาบาลนครธน
- การเตรียมตัวตั้งครรภ์ของคุณแม่ยุคดิจิตอลที่อยากมีลูก, โรงพยาบาลสมิติเวช
- ฝากครรภ์แต่ละครั้ง ตรวจอะไรบ้าง?, โรงพยาบาลเปาโล
- A comprehensive assessment of preconception health needs and interventions regarding women of childbearing age: a systematic review, National Library of Medicine
อ้างอิง ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2568

คุณแม่ตั้งครรภ์

แม่ผ่าคลอด

ดูแลลูกตามช่วงวัย

ภูมิแพ้ในเด็ก

แอลฟาแล็ค สฟิงโกไมอีลิน

พัฒนาการสมองลูกน้อย

การขับถ่ายลูกน้อย

คุณแม่ให้นมบุตร

เครื่องมือตัวช่วยคุณแม่ท้อง พร้อมปฎิทินการตั้งครรภ์

อาหารเด็ก

S-Mom Club

วิดีโอแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

โปรโมชัน



ความคิดเห็น